วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ดาวยูเรนัส


ดาวยูเรนัส ( Uranus )

         ดาว ยูเรนัส ( Uranus ) เป็นดาวเคราะห์ดวงแรกที่มีการค้นพบในสมัยใหม่ต่างจากดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์ที่เป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว สัญลักษณ์ดาวยูเรนัสแทนสวรรค์ เพราะยูเรนัสเป็นเทพเจ้าแห่งท้องฟ้า ของกรีก เป็นดาวเคราะห์ที่ วิลเลียม เฮอร์เชล (William Hershel) นักดาราศาสตร์สมัครเล่นชาวเยอรมันที่มาตั้งรกรากในอังกฤษ ค้นพบโดยอาศัยกล้องโทรทรรศน์ขนาด 6.4 นิ้วที่เขาประดิษฐ์ขึ้นเองส่องสำรวจท้องฟ้าอย่างเป็นระบบ ค้นพบปี พ.ศ. 2324 หรือในวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 1781 ในเบื้องต้นเขาคิดว่าวัตถุที่เขาพบคือดาวหางดวงหนึ่ง แต่หลังจากการติดตามสังเกตอยู่หลายสัปดาห์ เฮอร์เชลได้คำนวณวงโคจรของวัตถุที่เขาค้นพบและพบว่าวัตถุดังกล่าวคือดาว เคราะห์ดวงใหม่ที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ไกลจากวงโคจรของดาวเสาร์อกไปถึง 2 เท่า ดาวยูเรนัส (Uranus) มีองค์ประกอบคล้ายดาวพฤหัสบดี คือ ประกอบด้วยก๊าซไฮโดรเจนและฮีเลียม ดาวยูเรนัสมีสีฟ้าเขียว มีดวงจันทร์เป็นบริวาร 15 ดวง ชื่อไทยของดาวยูเรนัสคือ ดาวมฤตยู


โครงสร้างดาวยูเรนัส

ข้อมูลจากยานวอยเอเจอร์ 2 แสดงว่า ดาวยูเรนัสมีโครงสร้าง คล้ายดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ คือ มีใจกลางเป็นเหล็กและ หินแข็งขนาดเล็ก ร้อนจัด อุณหภูมิสูงราว 7,000 เคลวิน ภายใต้ความกดดันสูงมาก ถัดขึ้นมาเป็นชั้นน้ำแข็งมีเทนและ แอมโมเนียแข็งหนามากล้อมรอบใจกลางไว้ จากนั้นจึงเป็นชั้นของ ก๊าซไฮโดรเจน ฮีเลียม มีเทน แอมโมเนีย และน้ำแข็ง หนาหลายพันกิโลเมตร ที่เรามองเห็นเป็นตัวดวงดาวยูเรนัสนั่นเอง





                                                     ด้านข้างของดาวยูเรนัส
  
  ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถมองเห็นได้มากนักบนดาวยูเรนัสแต่นักดาราศาสตร์ได้พบ สิ่งที่ประหลาด อย่างหนึ่งเกี่ยวกับดาวยูเรนัส คือดาวยูเรนัสจะเอียงข้าง แกนของมันจะเอียงเพื่อว่าขั้วของมันจะตั้งอยู่เกือบอยู่ในทิศทางเดียวกับการ เคลื่อนไหวของดาวยูเรนัส  ที่ดาวยูเรนัสมีการเอียงมากอาจเป็นเพราะว่าครั้งหนึ่งเคยถูกกระแทกโดยดาว เคราะห์น้อย ในขณะที่ดาวยูเรนัสหมุนรอบดวงอาทิตย์ ขั้วข้างหนึ่งจะชี้ไปทางดวงอาทิตย์ ขั้วที่ชี้ไปยังดวงอาทิตย์จะเป็นแสงสว่างของเวลากลางวันเป็นเวลายี่สิบสอง ปี  แล้วด้านนี้ก็จะหมุนไปด้านตรงข้ามกับดวงอาทิตย์อยู่ในความมืดอีกยี่สิบสองปี นายวอยาเจอร์พบว่าขั้วมืดจะอบอุ่นกว่าขั้วที่มีแสงสว่างเล็กน้อยไม่มีใครรู้ ว่าเป็นเพราะเหตุใด




                                                             น้ำแข็งมืด

ยานวอยาเจอร์ 2 มองดูที่วงแหวนเมื่อมันบินผ่านดาวยูเรนัสวงแหวนของดาวยูเรนัสจะแคบ  วงแหวนที่กว้างที่สุดคือช่องว่างที่ใหญ่ซึ่งประกอบด้วย ก้อนฝุ่น  ยานวอยาเจอร์พบส่วนโค้งบางอย่าง ซึ่งเป็นส่วนของวงแหวนที่ไม่สมบูรณ์ วงแหวนของดาวยูเรนัสประกอบด้วยชิ้นน้ำแข็งมืดที่เคลื่อนไหว น้ำแข็งประกอบด้วยมีเทนแข็ง ชิ้นส่วนของมันอาจจะชนกันและทำให้เกิดฝุ่นที่อยู่ในช่องว่าง ระหว่างวงแหวน


บรรยากาศ




บรรยากาศดาวยูเรนัสประกอบด้วยส่วนใหญ่ของก๊าซฮีเลียมและไฮโดรเจน ส่วนใหญ่ของบรรยากาศของมันจะ
ยังประกอบด้วยน้ำแอมโมเนียและก๊าซมีเทน พื้นผิวด้านล่างของบรรยากาศชั้นบนที่เต็มไปด้วย "ทะเล" ของแอมโมเนียน้ำและไฮโดรเจน เปลี่ยนจากของเหลวเป็นแก๊สในบรรยากาศไม่ชัดเจน ส่วนหนึ่งของบรรยากาศที่เต็มไปด้วยก๊าซที่มีไฮโดรเจนและฮีเลียม ดาวยูเรนัสและเนปจูนเป็นที่รู้จักกันสำหรับการยักษ์น้ำแข็งเนื่องจากส่วนประกอบของพวกเขา บรรยากาศของดาวยูเรนัสจะแบ่งออกเป็นสามส่วน: troposphere, Stratosphere และเทอร์โม (หรือเรียกว่าโคโรนา)
troposphere เป็นส่วนที่ต่ำที่สุดและหนาแน่นที่สุดของบรรยากาศของดาวยูเรนัส เป็นระดับความสูงที่เพิ่มขึ้นของอุณหภูมิจะลดลง troposphere มีหลายที่แตกต่างกันและมีความซับซ้อนของโครงสร้างเมฆ เมฆที่ปรากฏใน troposphere ขึ้นอยู่กับความดันของสถ​​านที่แต่ละแห่ง เมฆที่สร้างขึ้นจากน้ำบอกว่าจะตั้งอยู่ที่แรงกดดันตั้งแต่ 50-100 บาร์ เมฆที่สร้างขึ้นจากแอมโมเนียม hydrosulfide ตั้งอยู่ในความกดดันที่หลากหลายจากบาร์ 20-40
ไฮโดรเจนซัลไฟด์และเมฆแอมโมเนียจะอยู่ที่แรงกดดันระหว่าง 3-1​​0 บาร์ ตั้งอยู่ที่แรงกดดันตั้งแต่ 1-2 เป็นชั้นบางมากของก๊าซมีเทนก้อนเมฆ การเปลี่ยนแปลงในฤดูกาลลมแรงการพาความร้อนและเมฆสดใสเกิดขึ้นโดยทั่วไปใน troposphere
บรรยากาศเป็นส่วนตรงกลางของชั้นบรรยากาศ ชั้นหมอกควันสร้างขึ้นจากสารเคมีและรูปแบบอีเทนในส่วนต่ำของบรรยากาศและโทรโพพอส นี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ว่าทำไมดาวยูเรนัสมีสีดังกล่าวอ่อนโยน
เทอร์โม / โคโรนาทำให้ขึ้นชั้นนอกสุดของบรรยากาศ ฮีเลียมไม่ได้อยู่ในส่วนหนึ่งของบรรยากาศนี้ เทอร์โมมีจำนวนมากมายของโมเลกุลไฮโดรเจนเช่นเดียวกับอะตอมไฮโดรเจน เพราะโมเลกุลเหล่านี้ควบคู่กันมวลมีอุณหภูมิสูงของภูมิภาคนี้จะอธิบายว่าทำไมส่วนหนึ่งของบรรยากาศนี้มีขนาดใหญ่เพื่อ เทอร์โมเป็นประมาณ 50,000 กิโลเมตรห่างจากดาวเคราะห์เอง คุณภาพนี้จะไม่ซ้ำกันดาวยูเรนัส เพราะอนุภาคขนาดเล็กนี้ซึ่งดาวยูเรนัสโคจรที่จะลากให้บรรยากาศที่ lessens ฝุ่นบนแหวนของดาวยูเรนัส




วงแหวนของดาวยูเรนัส

วงแหวน 10 ชั้น     เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2520 มีการค้นพบโดยบังเอิญว่าดาวยูเรนัสมีวงแหวนล้อมรอบ ขณะที่ ดาวยูเรนัสเคลื่อนที่ผ่านหน้าไปบังดาวฤกษ์ดวงสว่างดวงหนึ่ง สังเกตพบว่าความสว่างของดาวฤกษ์ ลดลงเป็นระยะ ๆ จึงสันนิษฐานว่าดาวยูเรนัสมีวงแหวน 9 ชั้น ต่อมายานวอยเอเจอร์ 2 ยืนยัน วงแหวนเหล่านั้นด้วยภาพถ่าย และยังพบวงแหวนวงใหม่ชั้นที่ 10 เป็นชั้นบางมาก ขนาดกว้างเพียง 3 กิโลเมตร เท่านั้น วงแหวนเหล่านี้มีลักษณะบาง แคบ สีคล้ำ ประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็ก มีทั้งก้อนน้ำแข็งและฝุ่นละออง กระจายอยู่ในวงแหวน สันนิษฐานว่าวงแหวนของดาวยูเรนัสอาจมีอายุน้อย และไม่ได้เกิดขึ้นพร้อม ๆ กันกับตัวดาวยูเรนัส อาจเป็นซากของดวงจันทร์บริวารที่แตกออกเนื่องจากถูกวัตถุจำพวกอุกกาบาตหรือดาวหางพุ่งชน หรือดวงจันทร์อาจแตกออกด้วยอำนาจแรงโน้มถ่วงของดาวยูเรนัส และถูกดาวยูเรนัสดึงดูดไว้เกิด เป็นวงแหวนก็เป็นได้





ดวงจันทร์ของดาวยูเรนัส
   
  ดาวยูเรนัสมีดวงจันทร์ที่รู้จักแล้ว 21 ดวง (สิงหาคม ค.ศ. 2003) มีชื่อเรียกแล้วทั้งหมด ในจำนวนนี้มีดวงจันทร์ 5 ดวงหลักที่มีรัศมีมากกว่า 200 กิโลเมตรคือ
ไททาเนีย (Titania) ตั้งชื่อตามสมเด็จพระราชินีแห่งนางฟ้าในเช็คสเปียร์ "ฝันกลางฤดูร้อนคืน" มันถูกค้นพบใน 1787 โดยวิลเลียมเฮอร์เชล ไททาเนียมประกอบด้วยหินและน้ำแข็งและพื้นผิวของมันเป็นสีเข้มและสีแดงอย่างอ่อนโยน มันเป็นที่ใหญ่ที่สุดของดวงจันทร์ของดาวยูเรนัสมีประมาณเส้นผ่าศูนย์กลางทาง 1600
โอบีรอน (Oberon) วินาทีเท่านั้นที่จะ Titania ในมวลและขนาด มันก็ตั้งชื่อตามตัวละครใน "ความฝันกลางฤดูร้อนคืน" - พระมหากษัตริย์ของนางฟ้า มันถูกค้นพบในปีเดียวกันเป็นไททาเนียวิลเลียมเฮอร์เชล มันมีรัศมีเส้นศูนย์สูตรของ 761.4 กม.
อัมเบรียล (Umbriel) มันถูกค้นพบโดยวิลเลียม Lassell เมื่อ 24 ตุลาคม 1851 มันเป็นชื่อหลังจากที่ตัวละครใน "การข่มขืนของ Lock" โดยอเล็กซานเดสมเด็จพระสันตะปาปา Umbriel ส่วนใหญ่ทำจากน้ำแข็งที่มีส่วนไม่กี่ของหิน มันมีรัศมีเฉลี่ยของ 584.7 กิโลเมตร
แอเรียล (Ariel) สว่างของดวงจันทร์ของดาวยูเรนัส นอกเหนือจากหลุมหุบเขาทั้งหมดกว่าพื้นผิวของเอเรียลเหมือนดาวอังคาร มันถูกค้นพบพร้อม Umbriel ในปี ค.ศ. 1851 โดยวิลเลียม Lassell แอเรียลเป็นชื่อของตัวละครใน "พายุ" (เชคสเปีย) และ "ข่มขืนล็อค" (พระสันตะปาปา) มันมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 472 กิโลเมตร
และมิแรนดา (Miranda) มันมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 470 กิโลเมตร ท่ามกลางดวงจันทร์ในระบบสุริยะมิแรนดามีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ พื้นผิวของมันดูเหมือนว่าจะได้รับการใส่กันในแบบสุ่ม นักดาราศาสตร์เชื่อว่ามิแรนดาได้ทำลายหลาย ๆ ครั้งก่อนและได้รับการประกอบ อย่างไรก็ตามไม่มีข้อพิสูจน์ทฤษฎีนี้คือ
ดวงจันทร์ของดาวยูเรนัสเล็กน้อยคือ:
คอร์ ดีเลียนางเอก Bianca, เครสสิด้า, Desdemona จูเลียตปอร์เชีย, Rosalind, ไฟเบลินดา, Perdita ซนกามเทพรานซิสโก, คาลิบันสเตฟาโน, Trinculo, Sycorax ร์กาเร็ต, Prospero, Setebos เฟอร์ดินานด์






ข้อเท็จจริงดาวยูเรนัส

1. ดาวยูเรนัสเป็นชื่อหลังจากที่เทพเจ้ากรีกของท้องฟ้า ดาวยูเรนัสเป็นสามีของ Gaia, เทพธิดาของโลก
2. โคจรเร็วของดาวยูเรนัสคือ 6.6 กิโลเมตร / วินาที
3. ปียูเรนัสเท่ากับ 84.01 ปีโลก
4. ดาวยูเรนัสเป็นดาวเคราะห์ดวงที่สามที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ
5. บรรยากาศของดาวยูเรนัสประกอบด้วยไฮโดรเจนฮีเลียมและก๊าซมีเทน ก๊าซมีเทนในบรรยากาศดูดกลืนแสงสีแดงให้ดาวเคราะห์สีฟ้าสีเขียว
6. ดาวยูเรนัสเป็นดาวเคราะห์ที่ผิดปกติเนื่องจากเป็นปลายด้านข้าง เสาจริงชี้ไปที่ดวงอาทิตย์ เพราะนี่คือความจริงที่ว่าสนามแม่เหล็กที่เอียง 60 องศาจากแกนของการหมุน
7. รอบโลก 2 เป็นยานอวกาศเพียงได้ไปเยือนดาวยูเรนัส
8. เหมือนวีนัสดาวยูเรนัสหมุนจากทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตกซึ่งอยู่ตรงข้ามจากการหมุนของโลก
9. วันยูเรนัสเท่ากับน้อยกว่า 17 ชั่วโมงบนโลก
10. ดาวยูเรนัสระยะห่างสูงสุดจากดวงอาทิตย์เป็น 3 พันล้านกิโลเมตร (1.88) พันล้านไมล์
11. ดาวยูเรนัสระยะทางขั้นต่ำจากโลกคือ 2.6 พันล้านกิโลเมตร (1.6 พันล้านไมล์)
12. เส้นผ่าศูนย์กลางของดาวยูเรนัสเป็น 51,488​​ิโลเมตร (32,000 ไมล์)
13. 27 ดวงจันทร์ของดาวยูเรนัสมีการตั้งชื่อตามตัวละครที่สร้างขึ้นโดยวิลเลียมเช็คสเปียร์และอเล็กซานเดสมเด็จพระสันตะปาปา
14. William Herschel ระบุไททาเนียมและ Oberon ใน 1787 เหล่านี้เป็นสองคนแรกที่ดวงจันทร์ของดาวยูเรนัสที่ถูกค้นพบ
15. ดาวยูเรนัสมี 13 วงที่ไม่ซ้ำกัน พวกเขาตั้งชื่อโดยใช้สัญลักษณ์กรีกและค่าตัวเลขอื่น ๆ 1986U2R / ζ, 6, 5, 4, α, β, η, γδ, λ, ε, νμ,
16. หากคุณน้ำหนัก 100 ปอนด์, น้ำหนักของคุณบนดาวยูเรนัสจะ£ 89 (คูณน้ำหนักที่แท้จริงของคุณโดย 0.89)






รายละเอียดดาวยูเรนัส

ระยะห่างจากดวงอาทิตย์  : 2,870,972,200 ก.ม.  ,  19.19126393 A.U.
หมุนรอบตัวเอง : 0.71833 วัน(หมุนกลับหลัง)
หมุนรอบดวงอาทิตย์ : 83.74740682 ปี
เส้นผ่านศูนย์กลาง  : 51,118 ก.ม. (4.007 เท่าของโลก)                                                                                          
ปริมาตร : 52 เท่าของโลก
มวล : 8.6849 × 1025 ก.ก.
ความหนาแน่น : 1300 ก.ก./ม3
ความเร่งที่พื้นผิว : 869 ซ.ม./วินาที2
ความเร็วเฉลี่ย : 6.8352 ก.ม./วินาที
ความเร็วการผละหนี : 21.29 ก.ม./วินาที
ความรีของวงโคจร : 0.04716771
ความเอียงระนาบวงโคจร : 0.76986 องศา
ความเอียงของแกนหมุน : 97.86 องศา
อุณหภูมิชั้นบรรยากาศ : 76 เคลวิน
ก๊าซในชั้นบรรยากาศ : H2, He, CH4





วงโคจรและการหมุนของดาวยูเรนัส

ดาวยูเรนัสทำให้ทางรอบดวงอาทิตย์ทุกๆ84 ปี (ปียูเรนัสเทียบเท่ากับ 84 ปีโลก)ระยะทางเฉลี่ยจากการมันจะเป็นรอบ 3 พันล้านกิโลเมตร ความเข้มของแสงอาทิตย์ที่มาถึงโลกประมาณ 1/400 จากที่บนโลก
ย้อนกลับไปใน 1783, ดาวยูเรนัสโคจรองค์ประกอบถูกคำนวณครั้งแรกโดย Pierre-Simon เลซ ความแตกต่างที่ถูกค้นพบในไม่ช้าในช่วงเวลาและใน 1841, จอห์นอดัมส์โซฟาระบุว่าแตกต่างเหล่านี้อาจเป็นเพราะแรงโน้มถ่วงดึงมาจากดาว เคราะห์ที่มองไม่เห็น เมือง Le Verrier เริ่มการวิจัยอิสระของเขาเข้าสู่วงโคจรของดาวยูเรนัส 'ในปี 1845 มันไม่ได้จนกว่า 1846 ว่าฮันกอลล์พบ Gottfried นี้โลกไม่เคยเห็นก่อนซึ่งเป็นชื่อของดาวเนปจูน
ระยะเวลาการหมุนของดาวยูเรนัสคือ 17 ชั่วโมงและ 14 นาที (เทียบกับเวลาที่โลกวันยูเรนัสจะอยู่ที่ประมาณ 17 ชั่วโมงและ 14 นาที) อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับเมื่อดาวเคราะห์ยักษ์อื่น ๆ ก็ยังมีประสบการณ์ลมแรงค่อนข้างจะไปในทิศทางของการหมุนของมัน ในพื้นที่บางอย่างเช่นภูมิภาคซึ่งเป็นสองในสามจากเส้นศูนย์สูตรไปขั้วโลกใต้ มีคุณสมบัติของบรรยากาศที่เห็นได้ชัดเร็วกว่าในแง่ของการเคลื่อนไหวจึงทำให้ การหมุนเต็มภายใน 14 ชั่วโมงมี แกนของโลกของการหมุนที่ตั้งอยู่บนด้านข้างของบนเครื่องบินของระบบสุริยะและมีแกนเอียงของ 97.77 องศา
นี้แกนเอียงจะให้ดาวเคราะห์การเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลที่มีความแตกต่างจากดาวเคราะห์ดวงอื่น เมื่อฤดูดาวยูเรนัสมาใกล้หนึ่งเสาอย่างต่อเนื่องจะต้องเผชิญแสงแดดในขณะที่คนอื่น ๆ จะต้องเผชิญวิธีอื่น ๆ เฉพาะแถบของพื้นที่รอบเส้นศูนย์สูตรจะผ่านไปรอบวันคืนอย่างรวดเร็วและดวง อาทิตย์จะต่ำมากอยู่ที่ขอบฟ้าเหมือนสิ่งโลกพื้นที่ขั้วโลกผ่าน เนื่องจากดาวยูเรนัสอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ออกไปไกลมาก พลังงานจากดวงอาทิตย์จึงแผ่ไปถึงดาวยูเรนัสเพียง 0.27% ของพลังงานที่แผ่มาถึงโลกซึ่งทำให้ ฤดูหนาวและ ฤดูร้อนบนดาวยูเรนัส มีอุณหภูมิต่างกันประมาณ 2 องศาเซลเซียสเท่านั้น




การสำรวจดาวยูเรนัส

ยานวอยเอเจอร์ 2 สำรวจดาวยูเรนัส ( Voyager 2,พ.ศ.2529 )
หลังจากยานวอยเอเจอร์ 2 เดินทางไปสำรวจดาวพฤหัสดีและบริวารในปี พ.ศ.2522 หลังจากนั้นจึงเดินทางไปสำรวจดาวเสาร์ บริวารและวงแหวนของดาวเสาร์ในปี พ.ศ.2524 เนื่องจากสภาพยาน อวกาศและเครื่องมือวิทยาศาสตร์ภายในยานยังคงปฏิบัติงานดีเยี่ยม องค์การนาซา สหรัฐอเมริกา จึงเสนอโครงการต่อเนื่องให้ยานวอยเอเจอร์ 2 โคจรไปสำรวจดาวยูเรนัสและดาวเนปจูนต่อไป ยานอวกาศเดินทางสำรวจดาวยูเรนัส เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2529 ระยะใกล้สุดห่างจาก ดาวยูเรนัส 71,000 กิโลเมตร

ประวัติการค้นพบดาวยูเรนัส

วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ.2324 วิลเลียม เฮอร์เชล ( William Herschel ) นักดนตรีและ นักดาราศาสตร์สมัครเล่นชาวอังกฤษ ใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 16 เซนติเมตร ส่องพบดาวยูเรนัสโดยบังเอิญ เห็นเป็นจุดริบหรี่ในกลุ่มดาวคนคู่ เนื่องจากดาวยูเรนัสอยู่ไกลมาก นับจากเมื่อ วิลเลียม เฮอร์เชล ค้นพบแล้ว ดาวยูเรนัสก็ยังคง ความลึกลับต่อมาอีกเกือบ 200 ปี นักดาราศาสตร์มีความรู้เกี่ยวกับดาวยูเรนัสน้อยมาก เพราะ มองเห็นได้จากกล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ ๆ เท่านั้น เห็นเป็นจุดสีเขียวเล็ก ๆ ไม่เห็นรายละเอียด บนพื้นผิวดวง นักดาราศาสตร์ค้นพบดวงจันทร์บริวารของดาวยูเรนัสครั้งแรกในปี พ.ศ.2330 และพบดวงจันทร์ ดวงที่ 5 ในปี พ.ศ.2491 จนในปี พ.ศ.2520 จึงค้นพบโดยบังเอิญว่าดาวยูเรนัสมีวงแหวน 9 ชั้น 








วิลเลียมเฮอร์เชล ค้นพบของดาวยูเรนัส
ผลงานการค้นพบ
วิลเลียมค้นพบดาวยูเรนัสในวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2324 พบดวงจันทร์โอบีรอนและไททาเนียของดาวยูเรนัส  ดวงจันทร์เอนเซลาดัสและไมมาสของดาวเสาร์ และพบเนบิวลาชื่อเอสกีโมด้วยเซอร์เฟรเดวิลเลียมเฮอร์เชล [1] KH , FRS (เยอรมัน: Friedrich Wilhelm เฮอร์เชล; 15 พฤศจิกายน 1738 - 25 สิงหาคม 1822) 







ดวง 12 ราศี
ดาวมฤตยู เทพเจ้าแห่งความตาย เป็นดาวแห่งความอาเพศ  ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เคย เป็นอยู่ บางอย่างถูกทำลายไปไม่เหมือนเดิม มนุษย์ทุกคนในโลกใบนี้ล้วนมีอิทธิพลของดาวมฤตยูมาเกี่ยวข้องในชีวิต จะเป็นเรื่องใดนั้น ขึ้นอยู่กับดวงชะตาของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกันไป ดาวมฤตยูเมื่อจรเข้าสู่ราศีใด ก็จะสถิตอยู่ ณ ราศีนั้นเป็นเวลา 7 ปี เรื่องราวต่างๆที่แต่ละคนจะได้รับอิทธิพลจากดาวมฤตยูก็จะยาวนานเป็นเวลาถึง 7 ปี เช่นกัน

ดาวมฤตยู

ดาวมฤตยู สัญญลักษณ์คือเลข  
ซึ่งต่อไปนี้เราจะใช้เลข ๐ ให้หมายถึง ดาวมฤตยู
มฤตยู (๐) ดาวบาปเคราะห์
มฤตยู (๐) คือ ความแปลกประหลาด มหัศจรรย์ น่าตื่นเต้น ตกใจ สิ่งใหม่ๆ ทันสมัย แปลกแหวกแนว กระทันหัน
มฤตยู (๐) เป็นสัญญลักษณ์ ของความไม่ครบถ้วน ขาด หมด ความหงุดหงิด โกรษง่าย ภัยอาเภท ลี้ลับซับซ่อน
มฤตยู (๐) หมายถึงนักวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมสิ่งใหม่ๆ ปฎิวัติ การเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลันจาก
หน้ามือเป็นหลังมือ ธาตุสุญกาศ เลข 0
มฤตยู (๐) แผ่อิทธิพลถึง ลั มักอาภัพ ต้องเหนื่อยยากตรากตรำลำบาก มักมีชีวิตที่ต้องช่วงใช้ผู้อื่น ชีวิตส่วนตัว
มักลุ่มๆดอนๆ บางครั้งรุ่งโรจน์บางครั้งตกต่ำไม่คงทน ปฎิภาณไหวพริบจะแก่กว่าอายุจริง ชอบครบ
คนที่อายุมากกว่าตน มีญานวิเศษมีลางสังหรณ์และพลังจิตสูง
ความหมายต่างๆเกี่ยวกับ ดาวมฤตยู (๐)
สถานที่ :
ต่างประเทศ ต่างแดน ต่างจังหวัด บนยานพาหะนะ สถานที่ๆมีความเคลื่อนไหว กระทรวงการต่างประเทศ
ภัตตาคาร ห้างสรรพสินค้า

บุคคล : นักวิจัย นักค้นคว้า นักสืบ นักปฎิวัติ พวกที่เกเรไม่เชื่อฟัง เอาแต่ใจตัวเอง

วิชาการ :
คอมพิวเตอร์ สำรวจ ดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ การประดิษฐ์ การค้นคว้าสิ่งใหม่ๆ แปลกๆ เช่นเทคโนโลยี
แผนใหม่ การริเริ่มสร้างสรรเพื่อให้ก้าวหน้าให้ทันกับโลคยุคใหม่ มือถือ ดาวเทียม
 
อาชีพ :
นักวิทยุ นักบิน นักประดิษฐ์ ช่างแกะสลัก งานทางด้านคอมพิวเตอร์ งานด้านอิเล็คทรอนิค งานที่เกี่ยวกับคลื่น
สัณญาณ เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ จิตศาสตร์ โบราณคดี นักโหราศาสตร์ นักสืบ พนักงานสืบสวน งานเชิงวิจัย ค้นคว้าต่างๆ
ด้านการเก็บข้อมูล ข่าวสาร

วัตถุ :
มักจะเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ไฟ สิ่งที่ไม่ค่อยสมบูรณ์

รูปร่าง :  โดยทั่วๆไปแล้วรูปร่างจะเปลี่ยนไปตามราศีที่สถิตย์และดาวดวงอื่นๆที่สัมพันธ์ถึง


นิสัย :
มักเป็นคนเคร่งขรึม ชอบเก็บตัว ๙่อนคม มีความคิดลึกซึ่ง ไม่ชอบความพลุกพล่านวุ่นวาย ช่างติ มีนิสัย
ละเอียดถี่ถ้วนมีลางสังหรณ์สูง มีญานวิเศษ สามารถล่วงรู้ปัญหาของผู้อื่นได้ดีทีเดียว อ่านจิตใจคนเก่งทำนาย
เหตุการณ์ได้ถูกต้องเจ้าอารมรณ์ ขี้หงุดหงิด โกรธง่าย ชอบเป็นผู้นำ ผู้ริเริ่มก่อการ นักปฎิวัติ คิดก้าวหน้าตลอด
ชอบประดิษฐ์คิดค้นมั่นคงในลัทธิ ช่างติ แก้ไข เอาแต่ใจตัวชอบคบ คนสูงอายุ มีความสามารถประหลาดๆมาก
มาย ชอบศาสตร์ลี้ลับ

อวัยวะ : ทวารหนัก

สี :
สีรุ้ง สีหลากหลาย

ทิศ :
ทิศไม่มี    (ทั่วทุกทิศ)

ถ้าดาวมฤตยูตกลัคนาราศีใดแล้วจะเป็นอย่างไร

ดาวมฤตยู (๐) อยู่ราศีเมษ เป็นคนไม่ยึดถือในตัวตน มักจะไร้บุตร หรือมีบุตรยาก หรือไม่ค่อยสนใจใยดีในบุตรของตน มักทอดทิ้งบุตร หาความผูกพันทางใจได้ยาก มักปล่อยตนให้เละเทะ มักจะได้เสียกันก่อนแต่งงาน หรือเรื่อยเปื่อยทางการมณ์ โดยหาคำนึงถึงบุตรที่จะเกิดขึ้นจากผลของการปล่อยตัวปล่อยใจนั้นไม่
ดาวมฤตยู (๐) อยู่ราศีพฤษภ ทำให้เข้มแข็ง มีความตั้งใจเด็ดเดี่ยวดี
ดาวมฤตยู (๐) อยู่ราศีเมถุน มีตำแหน่งเป็นมหาอุจน์ มักชอบเผชญภัย เป็นนักกีฬา สนใจวิทยาศาสตร์ จิตศาสตร์ รักอิสระ เสรี เป็นนักคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ และชอบท่องเที่ยวไปยังดินแดนแปลก ๆ ขาดความทะเยอทะยาน มักปล่อชีวิตเรื่อยเปื่อย ไม่สู้กระตือรือล้นใด ๆ
ดาวมฤตยู (๐) อยู่ราศีกรกฎ หากมัวเมายึดนามรูป ก็ทำให้ใฝ่ต่ำ เกิดคติ ความคิดในวงแคบ ปัญญาไม่สว่างไสว
ดาวมฤตยู (๐) อยู่ราศีสิงห์ มักขาดสมองริเริ่ม
ดาวมฤตยู (๐) ราศีกันย์ มักติดในโลก ขาดอารมณ์ จินตนาการ
ดาวมฤตยู( ๐ ) อยู่ราศีคุลย์ มักจะเพ้อฝันต่ออดีต และมีอุดมคติแรงกล้าเหนือสิ่งอื่น
ดาวมฤตยู (๐) อยูราศีพิจิก มักเป็นหม้าย ปัญญาไว ฉลาด พลิกแพลงเก่ง
ดาวมฤตยู (๐) อยู่ราศีธนู สนใจค้นคว้าในสิ่งเร้นลับต่าง ๆ มีญาณทัศนะไกล มักไม่ค่อยคิดการณ์ไกล ชอบขบปัญหาแบบเฉพาะหน้า ทำอะไรหุนหันพลันแล่น มักพลาดพลังเสมอ มีศัตรูมาก
ดาวมฤตยู (๐) อยู่ราศีกุมภ์ เป็นตำแหน่งเกษตร ให้คุณ ส่งผลให้รักความก้าวหน้า มีหัวคิด ชอบการเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่
ดาวมฤตยู (๐) อยู่ราศีมีน มักสนใจวิชาการต่าง ๆ และศาสตร์เร้นลับทั้งปวง มีอำนาจจิตดี

จากหนังสือประชุมเรื่องสิบลัคน์และพระชาตาเจ้านาย หน้า 194-195 ได้กล่าวถึง อิทธิฤทธิ์ของ ดาว มฤตยู ว่า
"อิทธิพล ของดาวนี้ เป็นดาวที่หักโค่นแบบเข้าที่ไหนพังที่นั่น โคจรเข้าเรือนดีกินหรือทำลายความดี เข้าเรือนร้ายกินความร้าย  องศาชิดดาวใด ดาวนั้นหย่อนอิทธิพลทันที ถ้าครองเรือนอวัยวะส่วนไหน  อวัยวะส่วนนั้นมักชำรุด  หรือเจ็บป่วยอยู่แต่ในส่วนนั้นๆเสมอๆ ตามสถิติในมือที่มีอยู่(10ลัคน์)  ถ้ามฤตยูอยู่เมษ 90% โพรงอากาศอักเสบ(ไซนัส) อยู่กรกฎก็มีโรคไตหรือกรวยไตอักเสบ  อยู่ตุลย์ก็กามโรคหรือต่อมลูกหมากอักเสบ  นอกจากจะแสดงโรคภัยไข้เจ็บแล้ว    เมื่อโคจรเข้าสู่ราศีใดไม่ว่าในพื้นดวงหรือจรมา ก็ทำลายเรือนนั้นๆราบคาบไปเลย  เช่นอยู่เรือน อริ ใครตั้งตัวเป็นศัตรู ผู้ตั้งตัวเป็นศัตรูตายไปเอง  มฤตยูโคจรเข้าเรือนบุตร มักเสียบุตร(ถ้าพื้นดวงไม่ดี)  โคจรเข้าเรือนคู่ มักจะเสียคู่  ขอย้ำว่า ดาวนี้ร้ายแรงเหลือประมาณ การพยากรณ์จรจึงไม่มีดาวกระทบดาว  แต่มีเฉพาะดาวครองเรือน